บล็อกนี้จัดทำขึ้นในการเรียนการสอนรายวิชาอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวันมหาวิทยาลัยมหาสารคาม



งานราตรีชมพูอมส้ม54 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิยาลัยมหาสารคาม

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

รางจืด ยาถอนพิษ


หญิงสาวอายุใกล้ ๕๐ ปีคนหนึ่ง ถ้าไม่บอกอายุ ดูจากผิวพรรณและหน้าตา คงต้องบอกว่าอายุประมาณ ๓๕ ปี และยิ่งรู้ลึกไปถึงประสบการณ์โรคภัยไข้เจ็บที่เธอประสบก็จะยิ่งแปลกใจว่าเธอ รักษาตัวมาได้อย่างไร
เธอเล่าให้ฟังว่า เธอทำงานในตำแหน่งเลขานุการในบริษัทต่างประเทศที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ได้รับเงินเดือนสูง สามีก็ทำงานในตำแหน่งดีเช่นกัน แต่ไม่มีบุตร เมื่อมีเงินมาก จึงใช้จ่ายในการกิน ดื่ม เที่ยว เต็มที่ สถานเสริมความงามที่ใดที่มีเสียงเล่าลือว่ารักษาผิวหน้า ผิวตัวได้ดี เธอจะต้องแวะเข้าไปใช้บริการไม่มีเว้น เครื่องสำอาง เครื่องบำรุงผิว แพงเท่าใด เป็นต้องหาซื้อมาใช้ เพราะเธอมีปัญหาที่ผิวซึ่งแพ้ง่าย ตัวคัน เธอเล่าให้ฟังว่า เพราะกลัวอ้วน มื้อเย็นไม่เคยทานข้าว แต่จะทานไก่ เป็นอาหารหลักทุกเย็น
จนกระทั่งวันหนึ่ง ไปหาหมอ หมอบอกให้นอนโรงพยาบาลทันทีเพื่อผ่าตัดมดลูกออก เนื่องจากก้อนมดลูกโตมาก เธอไม่อยากผ่าตัด กลับไปหาแม่ที่ต่างจังหวัด แม่บอกว่าไม่ต้องผ่า จะรักษาด้วยสมุนไพรพื้นบ้านเอง
เธอกลับบ้านพร้อมกับทานรางจืด ๒ แคปซูลพร้อมกับน้ำซาวข้าว วันละ ๒ ครั้ง พร้อมกับเลิกอาหารเนื้อสัตว์ทุกชนิด หันกลับมาทานข้าวกล้องและอาหารผักผลไม้สด ทานรางจืดได้ไม่นาน เธอต้องลงมานอนข้างล่างเพราะผิวหนังของเธอเต็มไปด้วยตุ่ม หนอง น้ำเหลือง ไหลออกมานอกตัว เหมือนคนเป็นโรคเรื้อน แต่เธอก็อดทนทานยาต่อไปจนครบ ๑ เดือน ผิวหนังที่เป็นตุ่ม เป็นหนองก็แห้งลง จนไม่เหลือร่องรอยอีก เมื่อไปพบแพทย์ที่เคยวินิจฉัยตอนแรกว่าเธอมีเนื้องอกในมดลูก ตรวจอีกครั้ง หมอยังแปลกใจว่า ก้อนเนื้องอกนั้นยุบเล็กลง จนไม่จำเป็นต้องผ่าตัดออกแล้ว
นับจากวันที่เริ่มทานรางจืด เธอได้เปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่หมด เลิกทานเหล้า เลิกกินเนื้อสัตว์ใหญ่ ทานข้าวกล้อง และผักผลไม้เป็นหลัก ออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ อบตัวเป็นประจำด้วยสมุนไพรไทย ขัดตัวด้วยมะขามผสมผงขมิ้น เธอเลิกใช้เครื่องสำอางราคาแพงที่เคยแสวงหามาใช้ ผลปรากฏอย่างที่ผู้เขียนพบเธอนั่นเอง

ตำราสมุนไพรไทย สรรพคุณของรางจืดเป็นที่เลื่องลือมากว่าเป็นตัวยาถอนพิษที่ได้ผลชงัดนัก อาการมีตุ่ม มีหนองไหลออกมานอกตัว อาจเกิดจากการขับพิษของรางจืดก็ได้ เพราะเธอได้สะสมพิษไว้ในตัวมากเกินกว่าคนธรรมดาปกติจะมีกัน เนื่องจากชีวิตการกิน การดื่มในวงสังคม
โดยปกติร่างกายเราจะได้รับสารพิษจากอาหาร น้ำดื่ม และอากาศอยู่แล้ว ร่างกายจะสามารถชำระชะล้างสารพิษออกไปได้ในระดับหนึ่ง แต่เพราะวิถีชีวิตที่เร่งรีบ และการกินอาหารขยะมากจนร่างกายขับออกไม่ทัน สารพิษจึงสะสมอยู่ตามเนื้อเยื่อ เป็นผลให้ร่างกายเสื่อมและแก่เร็ว ทั้งยังกีดกันไม่ให้รับสารอาหารเข้าไปเลี้ยงร่างกายได้เต็มที่ ซึ่งสามารถเห็นได้จากความเหี่ยวแห้งของผิวหนังและเส้นผม
ข้าว
ท่านทราบไหมว่าข้าวที่เราทานอยู่ทุกวันนี้นั้นเป็นยาแก้พิษ เส้นใยของข้าวซ้อมมือหรือข้าวกล้องเป็นตัวดูดซับสารพิษอย่างดี และขับออกมาทางอุดจาระ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราควรกินข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือแทนข้าวขาว
ในตำรับยาไทยบางตำรับจะใช้น้ำซาวข้าวเป็นน้ำ กระสายยา เพื่อให้ฤทธิ์ยาแล่นเร็ว น้ำซาวข้าวจะนำตัวยาจับเม็ดเลือดเข้าสู่กระแสเลือดเร็วเช่นเดียวกับการใช้ ดีงูเหลือมเป็นน้ำกระสายยา แต่ต้องใช้ข้าวซ้อมมือนำมาถูกับมือในน้ำ จึงจะได้น้ำซาวข้าวที่ใช้เป็นกระสายยา ถ้าหากเราถูกพิษ หากไม่มีรางจืด ก็สามารถใช้น้ำซาวข้าวช่วยล้างพิษได้ แก้พิษร้อนใน พิษอักเสบ แก้ผื่นคัน
นอกจากนี้ ในหน้าร้อน ทานอาหารไม่สะอาด อาจทำให้ท้องเสีย ถ้าไม่มียาแก้ท้องเสีย เราก็ใช้ข้าวสุก ๑ ทัพพีล้างน้ำออกหลายๆครั้ง แล้วกินข้าวสุก จะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้
ถ้าเป็นฝี แล้วอยากจะบ่มหัวฝี ก็ให้เอาข้าวสุก (ข้าวเหนียวจะดีกว่า) มาบดแผ่เป็นแผ่น แล้วปิดหัวฝี จะทำให้หัวฝีแตกเร็วขึ้น
ข้าวสารเอาแช่น้ำแล้วตำ เรียกว่าข้าวเบือผสมสุราทาแก้พิษผื่นคัน แก้ปวดบวม
ข้าวตาก คือข้าวที่หุงสุกแล้ว นำไปตากแห้ง แล้วเอามาคั่ว ใช้ขับประจำเดือนสตรี ซังข้าวหลังการเก็บเกี่ยวก็ใช้ขับประจำเดือนสตรีเช่นเดียวกัน
ข้าวยาคู หรือน้ำนมข้าว ใช้บำรุงกำลังอย่างดี มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล น้ำนมข้าวผลิตจากรวงข้าวอ่อนที่เม็ดข้าวยังเขียวอยู่ ต้องเป็นข้าวอ่อนก่อนเก็บมาทำข้าวเม่า และควรเป็นข้าวปลอดสารพิษ นำข้าวทั้งรวงมาล้างน้ำ แล้วเอารวงข้าวมาทุบให้แหลก เสร็จแล้วผสมน้ำคั้นออกมา จะได้น้ำสีเขียวอ่อน อาจผสมใบเตยด้วยก็ได้ น้ำที่ได้เอาไปต้มจนเดือด จะได้ข้าวยาคูที่มีความหอมข้นและหวานเล็กน้อย
รางจืด

เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง มีสองชนิด คือ รางจืดดอกม่วง และรางจืดดอกขาว แต่ที่นิยมใช้กันคือรางจืดดอกม่วง ใบคล้ายใบย่านาง แต่ดูนิ่มนวลกว่า รางจืดเป็นตัวยารสเย็น ใช้ได้ทั้ง ใบ ราก เถา ตำคั้นน้ำ หรือฝนกับน้ำฝน น้ำซาวข้าว กินเพียงสองครั้งก็เห็นผลในการใช้ดื่มถอนพิษ ทั้งที่เป็นพิษจากยาฆ่าแมลง อาหารเป็นพิษ พิษจากเมาสุรา หรือกินยานอนหลับเกินอัตราส่วนที่แพทย์กำหนด ทั้งนี้เพราะสรรพคุณของรางจืดจะเปลี่ยนกรดหรือด่างในร่างกายที่เป็นพิษให้ เป็นกลาง และเมื่อสารยาของรางจืดซึมเข้าไประบบประสาท ในเส้นเลือด ไปปะทะกับพิษยา หรือสารพิษต่างๆในร่างกาย มันจะทำลายพิษเหล่านั้นให้เป็นกลางในเวลาอันรวดเร็ว ไม่เกิน ๔๕ นาที แต่ไม่ควรทานรางจืดเป็นประจำทุกวัน เพราะจะทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่พอเพียง ใบรางจืดยังใช้ตำพอกแก้ปวดบวมได้
ตำรับยาล้างพิษของไทย ใช้กินก่อนกินยารักษาโรค เช่น จะรักษายาเสพติด ก็ให้กินยาล้างพิษก่อน ประกอบด้วย รางจืด เหงือกปลาหมอ และเถาย่านาง อย่างละ ๑๕ กรัม ต้มดื่มล้างพิษ
ต้นรางจืดปลูกง่าย เพียงใช้เถาชำก็ขึ้นแล้ว ปลูกเป็นไม้ประดับก็ได้ น่าจะปลูกไว้ประจำบ้าน
http://thaiherbclinic.com/node/78

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น