บล็อกนี้จัดทำขึ้นในการเรียนการสอนรายวิชาอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวันมหาวิทยาลัยมหาสารคาม



งานราตรีชมพูอมส้ม54 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิยาลัยมหาสารคาม

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

เรื่องของกล้วยยยยย


กล้วยหอมมีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิดคือ ซุคโคส ฟรุคโตสและกลูโคส (sucrose, fructose and glucose) รวมทั้งเส้นใยอาหาร ซึ่งจะให้พลังงานแก่ร่างกายที่พร้อมนำไปใช้ได้ทันที
มีผลงานวิจัยว่า กล้วยหอม 2 ลูกให้พลังงานเพียงพอให้เราทำงานได้ถึง 90 นาที

จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมนักกีฬาระดับโลกถึงชอบกินกล้วยหอมกันนัก
(เคยเห็นในสนามเทนนิส พอพักเบรคบางคนหยิบกล้วยหอมมากัดกินสัก 2-3 คำ)

นอกจากนี้ กล้วยหอมยังมีคุณอนันต์ ในการป้องกันโรคภัยและภาวะต่างๆ ของร่างกายได้อีกด้วยเช่น:

- ภาวะซึมเศร้า จากการสำรวจและวิจัยไต่ถามพร้อมสุ่มตัวอย่างจากคนไข้ ที่ป่วยเป็นโรคซีมเศร้า หรือในรายสุภาพสตรีก่อนมีประจำเดือน จะมีอารมณ์หงุดหงิดง่าย ไม่อยู่กับร่องรอย ก่อให้เกิดภาวะผิดปกติต่อร่างกาย..เช่นปวดท้อง ปวดหัว...ฯลฯ
 พบว่าส่วนใหญ่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้รับประทานกล้วยหอม เพราะในกล้วยหอมมีสารทริปโทแฟน ( tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายสามารถแปลงเป็น serotonin ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย มีอารมณ์สดใสและมีความสุขมากยิ่งขึ้น

- โรคโลหิตจาง ธาตุเหล็กในกล้วยหอมสามารถที่จะกระตุ้นร่างกายให้ผลิต Hemoglobin (ฮีโมโกลบิน) ในกระแสโลหิต ช่วยหยุดยั้งภาวะโลหิตจางได้

- ความดันโลหิต กล้วยหอมมีเกลือโปแตสเซียมเหลืองอยู่เยอะ เป็นตัวช่วย
ความดันเลือดจนกระทั่ง US Food and Drug Administration อนุมัติให้กล้วยหอมยอดผลไม้มีส่วนช่วยลดภาวะความเสี่ยงความดันได้จริง เสริมสร้างพลังสมอง (Brain Power)

ผลงานวิจัยพบว่าโปแตสเซียมในกล้วยช่วยนักเรียนให้ตื่นตัวอยู่เสมอ
ที่อังกฤษในแคว้น Middlesex มีนักเรียนจำนวน 200 คนจาก Twickenham school อ้างว่าพวกเขาสอบผ่านเพราะได้กินกล้วยหอมเป็นอาหารเช้า รวมทั้งกินอีกนิดหน่อยในตอนมื้อเที่ยงเพื่อทำให้สมอง
สดชื่น

- อาการท้องผูก เส้นใยอาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี

- อาการเมาค้าง  วิธีแก้เมาค้างที่เร็วและดีอีกวิธีหนึ่งก็คือกินกล้วยหอมปั่นbanana milkshake โดยการใส่น้ำผึ้งลงไปด้วย จะช่วยให้ ปรับระดับน้ำตาลในเส้นเลือด และทำให้กระเพาะอาหารอยู่ในสภาวะที่พร้อมทำงาน

- จุกเสียดแน่นท้อง (Heartburn) กล้วยหอมมีสารลดกรดตามธรรมชาติอยู่ ดังนั้นการกินกล้วยก็จะช่วยให้ลดอาการดังกล่าว
ในส่วนของท่านผู้สูงอายุ การรับประทานกล้วยหอมเวลาท้องว่างจะทำให้ลมกำเริบได้ จึงควรรับประทานช่วงมื้อกลางวัน จะทำให้การย่อยทำงานได้ดีไม่มีอาการท้องอืด

- Morning Sickness อาการหงุดหงิดงี่เง่า ไม่สดชื่นในตอนเช้าเช่นไม่อยากจะตื่นบ้าง...ฯลฯ กล้วยหอมสักคำ 2 คำระหว่างมื้อเช้า เที่ยงหรือเย็น จะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและแก้อาการดังกล่าว ในตอนเช้าได้

- บรรเทาแผลยุงกัด โดยใช้เปลือกกล้วยหอมด้านในถูบริเวณที่ถูกยุงกัด จะช่วยลดอาการคันหรือบวมได้

- ระบบเส้นประสาท  วิตามินบีที่มีอยู่มากในกล้วยหอมจะช่วยลดความเครียดอ่อนล้าได้

- อ้วนจากทำงานมากเกินไป สถาบันจิตวิทยาในออสเตรียได้ศึกษาและพบว่า ความเครียดจากที่ทำงานทำให้คนกินช็อกโกแล็ตและพวกโปเต้โต้ชิปส์มากเกินไป ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น คังนั้นถ้ากินกล้วยหอมสักเล็กๆ น้อยๆ ประมาณทุกๆ 2 ชม.จะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและลดการ
อยากกินของจุกจิก

- แผลในลำไส้และกระเพาะอาหารรวมทั้งผิวหนังพุพองเป็นแผล  สารและเส้นใยในกล้วยหอมช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เล็กดีขึ้น รวมทั้งกรดต่าง ๆที่มีอยู่ทำให้มีการเคลือบผิวของกระเพาะ ลดการเป็นแผลในกระเพาะได้

- ปรับระดับอุณหภูมิในร่างกาย (Temperature Control)  ในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรที่มีอากาศร้อน ผู้คนชอบกินกล้วยหอมดับร้อนกันครับและเชื่อว่ามันเป็นผลไม้เย็นฉ่ำชนิดหนึ่ง

- ลดความอยากสูบบุหรี่  สำหรับท่านที่ต้องการเลิกบุหรี่ กล้วยหอมอาจช่วยท่านได้เพราะมีวิตามิน B6, B12 โปแตสเซียมและแม็กนีเซียม ที่มีอยู่มากจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาดสารนิโคติน

จะเห็นได้ว่า กล้วยหอมนั้นเป็นยอดผลไม้จริงๆ เมื่อเปรียบเทียบกับแอปเปิลแล้ว กล้วยหอมมีโปรตีน มากกว่าถึง 4 เท่า มีคาร์โบไฮเดรทมากกว่าถึง 2 เท่า ฟอสฟอรัส มากกว่าถึง 3 เท่า วิตามินเอ และธาตุเหล็กมากกว่าถึง 5 เท่า วิตามินและเกลือแร่ต่างๆ มากกว่าถึง 2 เท่า
http://thaiherbclinic.com/node/368

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น